[1] มาตรา ๑๙ ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาซึ่งมีตำแหน่งวิชาการระดับศาสตราจารย์ หรือระดับรองศาสตราจารย์ซึ่งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกหรือเทียบเท่า เมื่ออายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ในสิ้นปีงบประมาณ อาจให้รับราชการเพื่อทำหน้าที่สอนหรือวิจัยต่อไปได้ จนถึงสิ้นปีงบประมาณที่ผู้นั้นมีอายุคบหกสิบห้าปีบริบูรณ์
       
 
       
       [2] หนังสือ ที่ นร ๐๙๐๑/๑๔๒๖ ลงวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๕๐ เรื่องวาระดำรงตำแหน่งคณบดี
       
 
       
       [3] หนังสือ ที่ นร ๐๙๐๑/๑๔๘๓ ลงวันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๐ เรื่องวาระการดำรงตำแหน่งและการเกษียณอายุราชการของผู้อำนวยการสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
       
 
       
       [4] http://app-thca.krisdika.go.th/Naturesig/CheckSig?whichLaw=cmd&year=2551&lawPath=c2_0103_2551
       
 
       
       [5] มาตรา ๑๘(ข) ตำแหน่งประเภทผู้บริหาร ได้แก่ (๑)อธิการบดี (๒)รองอธิการบดี (๓)คณบดี (๔)หัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ (๕)ผู้ช่วยอธิการบดี (๖)รองคณบดีหรือรองหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ (๗)ผู้อำนวยการกองหรือหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่ากองตามที่ ก.พ.อ.กำหนด (๘)ตำแหน่งอื่นตามที่ ก.พ.อ.กำหนด
       
 
       
       [6] ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่๑๒๑ ตอนพิเศษ ๒๓ก หน้าที่ ๑-๒๔วันที่ ๑๔  มิถุนายน ๒๕๔๗.
       
 
       
       [7] วารสารอัยการปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๖ สิงหาคม ๒๕๒๕ หน้าที่ ๓๑
       
 
       
       [8] มาตรา ๔อันกฎหมายนั้น ท่านว่าต้องใช้ในบรรดากรณีซึ่งต้องด้วยบทบัญญัติใดๆแห่งกฎหมายตามตัวอักษร หรือตามความมุ่งหมายของบทบัญญัตินั้นๆ เมื่อใดไม่มีกฎหมายที่จะยกมาปรับคดีได้ ท่านให้วินิจฉัยคดีนั้น ตามคลองจารีตประเพณีท้องถิ่น ถ้าไม่มีจารีตประเพณีเช่นว่านั้น ท่านให้วินิจฉัยคดีอาศัยบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง และถ้าบทกฎหมายเช่นนี้ก็ไม่มีด้วยไซร้ ท่านให้วินิจฉัยตามหลักกฎหมายทั่วไป
       
 
       
       [9] ราชกิจจานุเบกษา เล่มที ๘๑ ตอนที่ ๗ หน้าที่ ๑๑-๑๓ วันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๐๗
       
 
       
       [10] ราชกิจจานุเบกษา เล่มที ๑๒๑ ตอนพิเศษ ๖๙ ก หน้าที่ ๑-๑๓ วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๗  
       
 
       
       [11] ราชกิจจานุเบกษา เล่มที ๙๓ ตอนที่ ๕๕ ฉบับพิเศษ หน้า ๒ต-๒๘ วันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๑๙
       
 
       
       [12] ราชกิจจานุเบกษา เล่มที ๙๖ ตอนที่ ๙๕ ฉบับพิเศษ หน้าที่ ๒๖-๒๘ วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๒๒
       
 
       
       [13] ราชกิจจานุเบกษา เล่มที ๑๐๙ ตอนที่ ๕๐ หน้าที่ ๔๗-๕๒ วันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๓๕
       
 
       
       [14] ราชกิจจานุเบกษา เล่มที ๑๑๒ ตอนที่ ๒ก หน้า ๔-๕ วันที่ ๕ มกราคม ๒๕๓๘
       
 
       
       [15] มาตรา ๑๘ ตำแหน่งข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา มีดังนี้ (
ก) ตำแหน่งวิชาการ ซึ่งทำหน้าที่สอนและวิจัย หรือทำหน้าที่วิจัยโดยเฉพาะ ได้แก่ตำแหน่งดังต่อไปนี้ (๑)ศาสตราจารย์ (๒) รองศาสตราจารย์ (๓) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ (๔) อาจารย์หรือตำแหน่งอื่นตามที่ ก.พ.อ.กำหนด (
ข) ตำแหน่งประเภทผู้บริหาร ได้แก่ (๑) อธิการบดี (๒) รองอธิการบดี (๓) คณบดี (๔) หัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ (๕)ผู้ช่วยอธิการบดี (๖)รองคณบดีหรือรองหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ (๗) ผู้อำนวยการกอง หรือหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่ากองตามที่ ก.พ.อ.กำหนด (๘) ตำแหน่งอื่นตามที่ ก.พ.อ.กำหนด (
ค) ตำแหน่งประเภททั่วไป วิชาชีพเฉพาะ หรือเชี่ยวชาญเฉพาะตามที่ ก.พ.อ.กำหนด
       
 
       
       [16] มาตรา ๕๕ ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาออกจากราชการเมื่อ (๑) ตาย (
๒) 
พ้นจากราชการตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ.(๓) ได้รับอนุญาตให้ลาออก (๔)ถูกสั่งให้ออกตามมาตรา ๕๗ หรือมาตรา ๕๘ (๕) ถูกสั่งลงโทษปลดออกหรือไล่ออก
       
 
       
       [17] สิริพันธ์ พลรบ การใช้กฎหมายในทางปฏิบัติ ในเอกสารสอนชุดวิชาความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมายทั่วไป หน่วยที่๘-๑๕ พิมพ์ครั้งที่ ๙  นนทบุรี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ๒๕๕๓  หน้า ๔๘-๕๑