หน้าแรก บทความสาระ
การเมืองคืออะไร โดย คุณชำนาญ จันทร์เรือง
คุณชำนาญ จันทร์เรือง นักวิชาการอิสระ
20 กรกฎาคม 2551 13:33 น.
 
คำถามง่ายๆ แต่ตอบแสนจะยากคำถามนี้ผมยกขึ้นมาสำหรับผู้ที่กำลังเบื่อการเมืองและผู้ที่พยายามไม่ให้การเมืองเข้าไปยุ่งเกี่ยวในกิจการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารราชการหรือองค์กรตรวจสอบอำนาจรัฐ หรือแม้กระทั่งในการใช้อำนาจตุลาการ โดยทั้งๆที่ยังไม่รู้จักความหมายที่แท้จริงของคำว่าการเมืองเลย แต่ก็พากันปฏิเสธและชิงชัง “การเมือง” เสียแล้ว
       
        เมื่อเรายกคำถามนี้ขึ้นมาถามว่าการเมืองคืออะไร เราก็จะได้คำตอบที่หลากหลาย อาทิ
       การเมืองเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับรัฐและการบริหารประเทศ
       การเมืองเป็นเรื่องของการกำหนดนโยบายของรัฐ
       การเมืองเป็นเรื่องของการประนีประนอมผลประโยชน์
       การเมืองเป็นเรื่องของความขัดแย้ง โดยเห็นว่าเนื่องจากทรัพยากรของชาติมีอยู่อย่างจำกัด ขณะที่ผู้คนที่ต้องการใช้ทรัพยากรนั้นมีอยู่มากและความต้องการใช่ไม่มีขีดจำกัด การเมืองจึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการที่คนในสังคมไม่อาจตกลงกันได้หรือเกิดความขัดแย้งขึ้น
       
       ในส่วนมุมมองของนักรัฐศาสตร์แล้วก็มีหลายนักคิดที่ให้นิยามความหมายของคำว่าการเมือง อาทิ
       เพนนอคและสมิธ(Pennock and Smith) กล่าวว่า การเมือง หมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับอำนาจ สถาบันและองค์กรในสังคมที่ได้รับการยอมรับว่ามีอำนาจเด็ดขาดครอบคลุมสังคมนั้น ในการสถาปนาและทำนุบำรุงรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม มีอำนาจในการทำให้จุดประสงค์ร่วมกันของสมาชิกในสังคมได้บังเกิดผลขึ้นมา และมีอำนาจ ในการประนีประนอมความคิดเห็นที่แตกต่างกันของคนในสังคม
       เดวิด อีสต์ตัน(David Easton) กล่าวว่า การเมืองเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ในการจัดสรรแจกแจงสิ่งที่มีคุณค่าต่างๆให้แก่สังคงอย่างชอบธรรม (the authoritative allocation of values to society)
       ชัยอนันต์ สมุทวณิช กล่าวว่า การเมืองเป็นเรื่องของการแข่งขันกันเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ในการแบ่งปันคุณค่าที่ให้ประโยชน์แก่ฝ่ายตนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ (the competition for the authority to determine the authoritative allocation of values to society)
       ณรงค์ สินสวัสดิ์ กล่าวว่า การเมืองเป็นการต่อสู้ช่วงชิง การรักษาไว้และ การใช้อำนาจทางการเมือง โดยอำนาจทางการเมืองหมายถึงอำนาจในการที่จะวางนโยบาย ในการบริหารประเทศหรือสังคม อำนาจที่จะแต่งตั้งบุคคลเพื่อช่วยในการนำนโยบายไปปฏิบัติ และอำนาจที่จะใช้ข้าราชการ งบประมาณหรือเครื่องมืออื่นๆในการนำนโยบายไปปฏิบัติ
       
       แต่ผู้ที่นิยามความหมายของคำว่าการเมืองที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางมากที่สุด คือ ฮาโรลด์ ลาสเวลล์(Harold D. Lasswell) ปรมาจารย์ด้านรัฐศาสตร์ ชาวอเมริกันที่กล่าวว่า “การเมือง คือ การได้มาซึ่งอำนาจ เพื่อที่จะตัดสินว่าใครจะได้อะไร เมื่อใด และอย่างไร(Politics is,who gets “What”, “When”, and “How”)
       คำว่า “อำนาจ”ในที่นี้หมายความถึงพลังอะไรบางอย่างที่จะสามารถบังคับ ให้คนหรือกลุ่มบุคคลที่มีพลังน้อยกว่ากระทำตามที่ต้องการ เช่น พ่อแม่มีอำนาจที่จะบังคับให้ลูกไปโรงเรียน ตำรวจมีอำนาจบังคับให้ผู้คนปฏิบัติตามกฎจราจร กลุ่มโอเปกรวมตัวกันเพื่อสร้างอำนาจในการต่อรองราคาน้ำมันในตลาดโลก ฯลฯ โดยอำนาจอาจจะอยู่ในรูปแบบอะไรก็ได้ เช่น ข้อมูลข่าวสาร ฐานะทางการเงิน เกียรติยศทางสังคม เป็นต้น
       การเมืองเกิดจากความเป็นจริงที่ว่า ความจำเป็นต่างๆของมนุษย์มีจำกัด เช่น ฐานะทางเศรษฐกิจ สถานภาพทางสังคม ในขณะที่ความต้องการของมนุษย์มีอยู่อย่างไม่จำกัด การเมืองจึงเกิดขึ้นมาเพื่อที่จะเป็นกฎเกณฑ์ในการแบ่งสรรความจำเป็นต่างเหล่านี้ ซึ่งต้องเกี่ยวพันกับ “อำนาจ” อย่างเลี่ยงไม่ได้
       
       จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่าการเมืองมิใช่เป็นเพียงเรื่องที่รัฐบาลจะทำอะไร รัฐสภาจะออกกฎหมายอะไร เทศบาลจะสร้างเตาเผาขยะที่ไหน ฯลฯ แต่เกี่ยวพันไปในทุกๆสิ่ง ทุกๆอย่าง ที่เกี่ยวพันกับการได้มาซึ่งอำนาจ เพื่อที่จะตัดสินว่าใครจะได้อะไร เมื่อใด และอย่างไร ดังนั้น การเมืองย่อมแทรกซึมไปทุกที่นับตั้งแต่ระดับใหญ่สุดคือระดับระหว่างประเทศไปจนถึงระดับเล็กสุด เช่น การจดทะเบียนมรดกโลกประสาทพระวิหาร การเมืองในชุมชนหรือหมู่บ้าน หรือแม้กระทั่งการเมืองในองค์กรหรือการเมืองในสำนักงาน ที่มีการต่อสู้ ช่วงชิงยศ ช่วงชิงตำแหน่งและผลประโยชน์ต่างๆอยู่เสมอ
       การดำเนินการทางการเมืองนั้นรวมไปถึงไม่ว่าจะเป็นการกำหนดจุดสร้างโรงไฟฟ้าหรือการสร้างเขื่อน การจะขึ้นหรือลดภาษี การสรรหา สว. การสรรหาคณะกรรมการในองค์กรอิสระทั้งหลาย การเลือกตั้งคณะกรรมการในองค์กรวิชาชีพทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นวิชาชีพใดก็ตาม(รวมทั้งองค์กรตุลาการด้วย) การตกลงว่าจะให้พระภิกษุรูปใดรับผ้ากฐิน การตกลงกันภายในกลุ่มพลังต่างๆว่าจะกำหนดแนวทางการต่อสู้อย่างไรนี่ก็คือการเมือง
       ฉะนั้น ตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์นี้เราไม่สามารถหลีกหนีการเมืองไปได้ การที่พยายามจะไม่ให้มีการเมืองในกิจกรรมที่จะต้องแบ่งสรรอำนาจจึงขัดธรรมชาติและเป็นไปไม่ได้ เพียงแต่ว่าเราจะจัดสรรอย่างไรให้มีข้อขัดแย้งให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด
       แทนที่จะเราเบื่อการเมืองหรือหลีกหนีการเมือง(ซึ่งหนีไม่พ้น) เราควรจะกลับมามองการเมืองอย่างพินิจใคร่ครวญว่าเหตุแห่งความยุ่งยากทั้งหลายทางการเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนั้นเกิดจากอะไร ข้อกล่าวหาต่างๆที่แต่ละฝ่ายสาดใส่เข้าหากันนั้นจริงและเท็จแค่ไหน เราฟังความครบทุกข้างแล้วหรือไม่ ก่อนที่เราจะตัดสินใจเลือกข้าง(ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ได้มีเฉพาะข้างรัฐบาลกับพันธมิตรเท่านั้น)
       
       เมื่อเราหนีการเมืองไม่ได้ เราก็ต้องหาวิธีที่จะอยู่กับการเมืองอย่างฉลาด โดยเรียนรู้วิธีที่จะจัดการกับบรรดาอำนาจทั้งหลาย เพื่อที่จะตัดสินว่าใครจะได้อะไร เมื่อใด และอย่างไร นั่นเอง
       
       -------------------------


 
 
หลักความเสมอภาค
องค์กรอิสระ : ความสำคัญต่อการปฏิรูปการเมืองและการปฏิรูประบบราชการ โดย คุณนพดล เฮงเจริญ
ปัญหาของการนำนโยบายสาธารณะไปปฏิบัติในประเทศไทย
การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน : ผลในทางปฏิบัติ เมื่อครบรอบหกปีของการปฏิรูปการเมือง
หลักนิติรัฐและหลักนิติธรรม
   
 
 
 
PAYS DE BREST : COOPERER VOLONTAIREMENT AU SERVICE DU TERRITOIRE
La violence internationale : un changement de paradigme
การลงทะเบียนเพื่อรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในประเทศไทย: มิติด้านกฎหมายและเทคโนโลยี
Tensions dans le cyber espace humanitaire au sujet des logos et des embl?mes
คุณูปการของศาสตราจารย์พิเศษ ชัยวัฒน์ วงศ์วัฒนศานต์ ต่อการพัฒนากฎหมายปกครองและกระบวนการยุติธรรมทางปกครอง : งานที่ได้ดำเนินการไว้ให้แล้วและงานที่ยังรอการสานต่อ
การเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม
ยาแก้โรคคอร์รัปชันยุคใหม่
สหพันธรัฐ สมาพันธรัฐ คืออะไร
มองอินโด มองไทย ในเรื่องการกระจายอำนาจ
การฟ้องปิดปาก
 
 
 
 
     

www.public-law.net ยินดีรับพิจารณาบทความด้านกฎหมายมหาชน โดยผู้สนใจสามารถส่งบทความผ่านทาง wmpublaw@public-law.net
ในรูปแบบของเอกสาร microsoft word (*.doc) เอกสาร text ข้อความล้วน (*.txt)ลิขสิทธิ์และความรับผิดตามกฎหมายของบทความที่ได้รับการเผยแพร่ผ่านทาง www.public-law.net นั้นเป็นของผู้เขียน ขอสงวนสิทธิ์ในการนำบทความที่ได้รับการเผยแพร่ไปจัดพิมพ์รวมเล่มเพื่อแจกจ่ายให้กับผู้สนใจต่อไป ข้อมูลทั้งหมดที่ปรากฏใน website นี้ยังมิใช่ข้อมูลที่เป็นทางการ หากต้องการอ้างอิง โปรดตรวจสอบรายละเอียดจากแหล่งที่มาของข้อมูลนั้น

จำนวนผู้เข้าชมเวบ นับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2544