|
|
|
|
|
"การพ้นจากตำแหน่งของประธาน กกต.ตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ"
ประเด็นร้อนที่สุดในวันนี้คงหนีไม่พ้นเรื่อง คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณี ประธาน กกต. หลายต่อหลายฝ่ายต่างออกมาให้ความเห็นกันจนยุ่งไปหมด ฟังดูแล้วน่าเหนื่อยใจครับ นักกฎหมายเก่งๆอีกหลายคนยังไม่ออกมาให้ความเห็น เข้าใจว่าคงคิดเหมือนๆกัน คือ รออ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญทั้งคำวินิจฉัยกลางและคำวินิจฉัยส่วนตัวก่อนจึงค่อยให้ความเห็นได้อย่างถูกต้องและตรงประเด็น สิ่งหนึ่งที่ได้ยินได้ฟังมาในช่วงนี้และค่อนข้างวิตก คือ มีการให้ความเห็นทางกฎหมายจากฝ่ายต่างๆโดยมีลักษณะเป็นการ ตีความ กฎหมายอย่างแคบตามตัวบทที่เป็นลายลักษณ์อักษรโดยมิได้มองประเด็นอื่นประกอบ ยกตัวอย่างเช่น การอ้างมาตรา 141 แห่งรัฐธรรมนูญอันเป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการการเลือกตั้งว่า ในมาตราดังกล่าวมิได้มีการบัญญัติไว้ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งได้นั้น การพิจารณาเพียงมาตราเดียวออกจะเป็นการมองที่ค่อนข้าง แคบ และไม่สามารถนำมาใช้เป็นบรรทัดฐานในการพิจารณาปัญหาต่างๆได้อย่างรอบคอบ กรณีที่เป็นปัญหาอยู่นี้ จากการอ่านข่าวที่ปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์ทราบว่า ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า กระบวนการสรรหา กกต.ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ฉะนั้น เมื่อกระบวนการสรรหาไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ผู้ที่ได้รับการสรรหามาก็ย่อมต้อง ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ด้วยเช่นกัน การกระทำทางปกครองของฝ่ายปกครองต้องชอบด้วยกฎหมายถือเป็นหลักการขั้น พื้นฐาน ของกฎหมายมหาชนครับ กรณีดังกล่าวจึงไม่ใช่กรณีการพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 141 ครับ อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขียนบทบรรณาธิการนี้ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญยังไม่เสร็จครับ ก็คงเป็นการให้ความเห็นจากการฟังข่าวและอ่านข่าว เอาไว้เมื่อได้อ่านคำวินิจฉัยกลางและคำวินิจฉัยส่วนตัวของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญครบทั้งหมดแล้ว ค่อยว่ากันอีกทีหนึ่งครับ
ประเด็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญค่อยเงียบลงไปบ้าง แต่ผมก็เข้าใจว่าคงอยู่ใน ระหว่างการเตรียมตัว นั่นแหละครับ บทความของผมเรื่อง ถึงเวลาแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วหรือยัง ที่ได้ลงเผยแพร่ใน pub-law.net ไปเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วได้รับการ ตอบรับ อย่างดีโดยมีการนำไปอ้างอิงในหนังสือพิมพ์บางฉบับและนอกจากนี้ผมได้รับการติดต่อจากนักวิชาการผู้ใหญ่ท่านหนึ่งสอบถามถึงวารสารกฎหมายมหาชน (revue du droit public) ของฝรั่งเศสที่ผมได้อ้างถึงในบทความว่าจัดทำขึ้นในโอกาสครบรอบ 40 ปีของการบังคับใช้รัฐธรรมนูญว่า หน้าตา ของหนังสือเป็นอย่างไร ก็ขอเอามานำเสนอไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
สำหรับสาระสำคัญของ pub-law.net ครั้งนี้ผมเริ่มลงบทความเรื่อง สัญญาทางปกครองของไทย เป็นตอนแรกครับ พยายามลงให้ได้มากที่สุดเพื่อจะได้จบก่อนสิ้นเดือนกันยายนนี้ครับ สัญญาทางปกครองของไทยนี้มีความยาวพอสมควรและแบ่งสาระออกเป็น 2 ส่วน รวมทั้งหมด 6 บทด้วยกัน ผมคงไม่อธิบายอะไรทั้งนั้นในบทบรรณาธิการนี้ คอยติดตามอ่านเอาแล้วกันนะครับ ส่วนสารบัญรวมบทความยังไม่ได้ทำเลยครับเพราะคิดว่าคงมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เมื่อลงครบทุกตอนแล้วจะนำไปรวมกับสัญญาทางปกครองของฝรั่งเศสและจัดทำเป็นหนังสือต่อไป คาดว่าน่าจะออกวางตลาดได้ภายในสิ้นปีนี้ครับ นอกจากบทความเรื่องสัญญาทางปกครองของไทยแล้ว เรายังมีบทความอื่นๆอีก 2 บทความ คือ บทความเรื่อง วิเคราะห์คำวินิจฉัยของศาลปกครอง เรื่อง ขอให้เพิกถอนมติที่ประชุมคณะกรรมการองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย เกี่ยวกับการตัดการเชื่อมโยงโครงข่ายโทรคมนาคม (คำสั่งที่ 645/2545) ของ ดร.บรรเจิด สิงคะเนติ แห่งคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และบทความเรื่อง พัฒนาการสิทธิเสรีภาพตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญฉบับต่างๆของฝรั่งเศส ของ ผศ.ดร.เกรียงไกร เจริญธนาวัฒน์ แห่งคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คงไม่ต้องแนะนำอะไรมากเพราะชื่อเสียงของอาจารย์ทั้ง 2 ก็เป็นที่รู้จักและยอมรับกันอยู่แล้วนะครับ ก็ต้องขอขอบคุณอาจารย์ทั้ง 2 ที่ได้กรุณาเขียนบทความให้กับ pub-law.net อย่างสม่ำเสมอ ส่วนอื่นๆก็มีการแนะนำหนังสือใหม่ใน หนังสือตำรา มีการตอบคำถามใน เวทีทรรศนะ นอกจากนี้ก็มีการปรับปรุงข้อมูลต่างๆอันเป็นข้อมูลพื้นฐานของเราให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นครับ
พบกันใหม่วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม 2545 ครับ
รองศาสตราจารย์ ดร.นันทวัฒน์ บรมานันท์
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|