หน้าแรก บทบรรณาธิการ
 
ครั้งที่ 354
21 มกราคม 2561 21:07 น.
"ปัญหาของการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ในฝรั่งเศส"
       
       
ไม่กี่วันที่ผ่านมา มีข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสที่น่าสนใจอยู่ข่าวหนึ่งคือ ข่าวการสร้างสนามบินแห่งใหม่ที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานานกว่า 50 ปี ที่ผมสนใจข่าวนี้ก็เพราะสถานที่ตั้งของสนามบินอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย Nantes ที่ผมได้รับเชิญไปเป็น visiting professor หลายครั้งและเพื่อนที่เป็นอาจารย์ที่นั่นก็ได้เคยเล่าให้ฟังถึงเรื่องราวของข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากการสร้างสนามบินแห่งนี้ครับ

       ความเป็นมาของเรื่องนี้เริ่มขึ้นในปี ค.ศ.1960 เมือง Nantes เป็นเทศบาล (commune) ที่มีประชากรมากเป็นอันดับหกของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ในจังหวัด Loire-Atlantique เมือง Nantes อยู่ริมแม่น้ำ Loire ห่างจากมหาสมุทร Atlantique ประมาณ 50 กิโลเมตร และอยู่ห่างกรุง Paris ประมาณ 350 กิโลเมตร เมือง Nantes เป็นเมืองท่าและเมืองอุตสาหกรรมที่มีความเจริญและมีความสำคัญในทุกๆด้านมาตั้งแต่อดีต เมืองนี้มีสนามบินอยู่แห่งหนึ่งแล้วแต่มีขนาดเล็ก เนื่องจากนโยบายของรัฐบาลในขณะนั้นต้องการพัฒนาจังหวัดและภูมิภาคในด้านนั้นให้มีความเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจมากขึ้น จึงเป็นที่มาของแนวคิดที่จะขยายสนามบินแห่งเดิมที่มีอยู่ให้ใหญ่ขึ้น หรือไม่ก็สร้างสนามบินแห่งใหม่ที่อยู่ไม่ไกลจากสนามบินเดิมและมีความเป็นสนามบินนานาชาติเพื่อสร้างความเจริญให้กับภูมิภาคนั้น
       ปี ค.ศ.1965 จังหวัด Loire-Atlantique ได้ส่งคนลงพื้นที่บริเวณใกล้เคียงสนามบินเพื่อทำการสำรวจความเป็นไปได้ในการก่อสร้างสนามบิน พื้นที่ที่เหมาะสมที่จะสร้างสนามบินแห่งใหม่ก็คือพื้นที่ที่ตั้งอยู่ในเทศบาล Notre-Dame-Des-Landes ที่อยู่จากเมือง Nantes ประมาณ 30 กิโลเมตร แนวคิดที่จะสร้างสนามบินใหม่นี้ถูกคัดค้านจากประชาชนทั้งผู้อยู่อาศัยในรอบพื้นที่และประชาชนทั่วไปที่วิตกกังวลว่าจะเกิดปัญหาต่างๆตามมา เช่น ปัญหาสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
       แนวคิดที่จะให้มีการสร้างสนามบินแห่งใหม่หยุดไปช่วงเวลาหนึ่งเนื่องจากในขณะนั้น ทั่วโลกประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำมันและน้ำมันมีราคาสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามในปี ค.ศ.1974 มีการกำหนดแผนพัฒนาพื้นที่พิเศษในจังหวัด Loire-Atlantique โดยให้รัฐสามารถซื้อที่ดินในบริเวณที่กำหนดเพื่อนำมาทำการพัฒนาสร้างความเจริญให้กับภูมิภาคในด้านต่างๆซึ่งก็รวมถึงการก่อสร้างสนามบินด้วย แผนพัฒนาดังกล่าวถูกคัดค้านจากประชาชนในจังหวัด จากผู้อยู่อาศัยและจากบรรดาผู้ที่ทำงานด้านสิ่งแวดล้อม
       ข่าวของการก่อสร้างสนามบินเงียบไปอีกครั้งจนกระทั่งในปี ค.ศ.1989 มีรถไฟความเร็วสูง (TGV) มาที่เมือง Nantes ซึ่งใช้ระยะเวลาในการเดินทางจากกรุง Paris มาที่เมือง Nantes เพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น เรื่องการก่อสร้างสนามบินจึงเงียบไปเป็นเวลานานพอสมควร จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2000 นายกรัฐมนตรีจากพรรคสังคมนิยม นาย Lionel Jospin ได้นำโครงการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่นี้ขึ้นมาปัดฝุ่นใหม่หลังจากเงียบหายไปนานเพราะรัฐบาลต้องการที่จะสร้างสนามบินแห่งใหม่ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงปารีสนักและได้เคยสำรวจถึงความเป็นไปได้ในการก่อสร้างสนามบินในพื้นที่นี้มาแล้ว ระยะทางของสนามบินใหม่ก็อยู่ไม่ไกลจากกรุงปารีสซึ่งมีสนามบินอยู่แล้วสองแห่งคือสนามบิน Roissy และ Orly ในครั้งนี้รัฐบาลได้ทำการศึกษา รับฟังความคิดเห็นสาธารณะและเตรียมพร้อมที่จะก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ที่จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 8,000,000 คน ต่อมาในปี ค.ศ.2008 ก็ได้มีรัฐกฤษฎีกากำหนดให้ใช้พื้นที่เพื่อสาธารณประโยชน์ (déclaration d’utilité publique (DUP) ) การก่อสร้างสนามบินแห่งนี้ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 580 ล้านยูโร โดยให้เริ่มการก่อสร้างในปี ..2012 และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในปี ..2015 
       ผู้อยู่อาศัยในบริเวณดังกล่าวจำนวนกว่า 200 ครอบครัวยอมรับและทำการย้ายออกจากบริเวณที่จะทำการก่อสร้างสนามบิน แต่ก็มีผู้อยู่อาศัยบางส่วนที่ยังคงอยู่ในพื้นที่และประกาศว่าจะไม่ยอมย้ายออกอย่างเด็ดขาดและได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครองสูงสุด (Conseil d’Etat)เพิกถอนรัฐกฤษฎีกากำหนดให้ใช้พื้นที่เพื่อสาธารณประโยชน์ (déclaration d’utilité publique (DUP) นอกจากนี้แล้ว ก็ยังมีกลุ่มผู้ร่วมคัดค้านการก่อสร้างสนามบินได้บุกเข้ามาสร้างสิ่งกีดขวางถนนสาธารณะที่ผ่านบริเวณดังกล่าวทำให้ประชาชนทั่วไปไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และก็ยังมีกลุ่มผู้ร่วมคัดค้านอีกจำนวนหนึ่งได้เข้ามาสร้างที่พักชั่วคราวเพื่ออยู่อาศัยในบริเวณที่จะทำการก่อสร้างสนามบินเพื่อขัดขวางไม่ให้เกิดการก่อสร้างสนามบินขึ้น โดยผู้ที่ย้ายเข้าไปใหม่ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2009 ต่างก็อ้างว่าการก่อสร้างสนามบินจะเป็นอันตรายและก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การคัดค้านในครั้งนั้นสร้างปัญหาใหญ่ขึ้นในประเทศฝรั่งเศสเมื่อมีการสร้างสิ่งกีดขวางไม่ให้หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปดำเนินการ ในที่สุดก็เกิดการปะทะกันระหว่างตำรวจซึ่งบุกเข้าไปขอคืนพื้นที่กับประชาชนซึ่งขัดขวางการก่อสร้างสนามบินทำให้เกิดการบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
       ในปี ค.ศ. 2010 บริษัท Vinci ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ก่อสร้างสนามบิน ในขณะนั้นบริเวณพื้นที่ที่จะทำการก่อสร้างสนามบินยังมีข้อขัดแย้งอย่างรุนแรงอยู่ ประธานาธิบดี François Hollande ซึ่งต้องการก่อสร้างสนามบินก็ได้พยายามหาทางออกด้วยการตั้งคณะกรรมการหาข้อยุติในเรื่องดังกล่าวโดยขอให้อดีตนายกเทศมนตรีเมือง Nantes ซึ่งต่อมาเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศเข้ามาเป็นประธานคณะกรรมการหาข้อยุติ ในระหว่าง ปีค.ศ. 2012 ถึง 2013 มีความพยายามที่จะเจรจาเพื่อหาข้อยุติหลายครั้ง จนกระทั่งในเดือนเมษายน ค.ศ.2013 จึงได้ข้อสรุปวิธีการแก้ปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อม จากนั้นในปี ค.ศ.2015 ประชาชนได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครองพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวกับการที่รัฐจะก่อสร้างสนามบินในหลายๆประเด็น ผลก็คือศาลปกครองยกคำฟ้องทั้งหมดเนื่องจากการดำเนินการของภาครัฐทั้งหมดถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จังหวัดจึงเดินหน้าโครงการก่อสร้างสนามบินต่อสร้างต่อ
       วันที่ 15 มกราคม ค.ศ. 2016 ศาลปกครองมีคำสั่งให้เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่ที่จะทำการก่อสร้างสนามบินออกไปจากพื้นที่ ต่อมาในวันที่ 26 มิถุนายน ค.ศ.2016 มีการทำประชามติท้องถิ่นเพื่อขอทราบความเห็นของผู้ที่อยู่ในพื้นที่ทั้งหมด ผลปรากฏว่าประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ร้อยละ 55.17 เห็นควรให้สร้างสนามบิน ส่วนอีกร้อยละ 44.83 เห็นควรให้ยกเลิกโครงการก่อสร้างสนามบินในเขตเทศบาล Notre-Dame-Des-Landes
       เมื่อประธานาธิบดีคนใหม่คือนาย Emmanuel Macron เข้ารับตำแหน่ง ความขัดแย้งเรื่องการก่อสร้างสนามบินยังคงมีอยู่แม้ผลของการลงประชามติท้องถิ่นจะเห็นด้วยกับการสร้างสนามบินไปแล้วก็ตาม เนื่องจากเสียงคัดค้านการก่อสร้างสนามบินมีจำนวนสูงไล่เลี่ยกัน รัฐบาลใหม่จึงขอพิจารณาเรื่องนี้อีกรอบหนึ่งและได้ตั้งผู้ไกล่เกลี่ยสามคนเพื่อหาข้อยุติในปัญหาดังกล่าว ในวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 2017 ผู้ไกล่เกลี่ยซึ่งทำงานมาแล้วหกเดือนก็ได้มีข้อเสนอถึงรัฐบาลสองข้อ ข้อแรกคือขยายสนามบินที่เมือง Nantes ให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากขึ้น ข้อสองคือเดินหน้าสร้างสนามบินใหม่ที่เมือง Notre-Dame-Des-Landes ประธานาธิบดีเป็นผู้รับข้อเสนอดังกล่าวไว้พิจารณาโดยบอกกับประชาชนว่าจะให้คำตอบว่าจะดำเนินการอย่างไรในเรื่องนี้ภายในเดือนมกราคม
       ล่าสุด เมื่อวันพุธที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี Edouard Philippe ของฝรั่งเศสก็ได้ออกมายืนยันว่ารัฐบาลตัดสินใจยกเลิกโครงการสร้างสนามบินที่เมืองNotre-Dame-Des-Landes ที่ตั้งอยู่ตอนเหนือของเทศบาลเมืองแล้ว ส่วนผู้ที่เข้าไปบุกรุกและอยู่อาศัยโดยไม่มีสิทธิ์ตามกฎหมายในบริเวณดังกล่าวจะต้องออกไปพ้นบริเวณเมื่อสิ้นฤดูหนาว
       มีการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนชาวฝรั่งเศสทันทีหลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศยกเลิกโครงการก่อสร้างสนามบิน ปรากฏว่าร้อยละ 74 เห็นด้วยกับการตัดสินใจของรัฐบาลที่ยกเลิกการก่อสร้างสนามบิน รัฐบาลแถลงว่าจะดำเนินการสองขั้นตอนคือ เปิดให้มีการสัญจรไปมาผ่านบริเวณดังกล่าวได้เนื่องจากถนนถูกฝ่ายผู้คัดค้านปิด ผู้ที่บุกรุกเข้าไปอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวก็ต้องออกไป ภายในวันที่ 30 มีนาคม ที่เป็นวันสิ้นสุดฤดูหนาว ส่วนสัญญาก่อสร้างสนามบินที่ทำกับบริษัท Vinci รัฐบาลก็จะไปเจรจาแล้วก็จะแจ้งผลให้ประชาชนทั่วไปทราบ คนส่วนใหญ่ในประเทศเห็นด้วยกับการดำเนินการข้างต้นของรัฐบาลพร้อมกับแสดงความยินดีต่อชัยชนะของผู้ที่คัดค้านการก่อสร้างสนามบิน แต่ในขณะเดียวกันคนอีกกลุ่มหนึ่งก็ออกมาแสดงความเห็นว่า ในช่วงเวลา 50 ปีที่ผ่านมานี้มีการดำเนินการต่างๆตามกฎหมายอย่างเป็นระบบ การตัดสินใจของประธานาธิบดีครั้งนี้เป็นการเหยียบย่ำกระบวนการยุติธรรม เป็นการเหยียบย่ำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเป็นการเหยียบย่ำเสียงของประชาชนที่ออกเสียงประชามติเห็นด้วยกับการสร้างสนามบิน
       คงต้องรอดูกันต่อไปนะครับว่าประธานาธิบดีและรัฐบาลจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไรต่อไป เพราะ อย่างน้อย การตัดสินใจของประธานาธิบดีและรัฐบาลในครั้งนี้ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลปกครองหลายๆเรื่อง กระทบต่อการออกเสียงประชามติในระดับท้องถิ่นที่ประชาชนในพื้นที่เห็นด้วยกับการก่อสร้างสนามบิน รวมไปถึงคงต้องดูด้วยว่าจะทำอย่างไรกับบริษัท Vinci ที่ได้ลงนามในสัญญาให้มีการก่อสร้างสนามบินไปแล้ว แต่ที่แน่ๆคือเรื่องนี้น่าจะทำให้คะแนนนิยมของประธานาธิบดีลดน้อยลงและจะต้องเกิดความรับผิดชอบทางการเมืองตามมาไม่มากก็น้อยครับ
       
       ในสัปดาห์นี้เรามีบทความมานำเสนอ 2 บทความด้วยกัน ได้แก่บทความของคุณชำนาญ จันทร์เรือง นักวิชาการอิสระ ที่เขียนเรื่อง "สัตว์ประหลาดทางการเมือง" และบทความที่สองเป็นบทความของคุณณัฐวุฒิ สุขแสวง นักบริหารท้องถิ่น ที่เขียนเรื่อง "สิทธิได้รับค่าเช่าบ้านเป็นไปตามเงื่อนเวลา" ผมขอขอบคุณเจ้าของบทความทั้งสองไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ 
       
       พบกันใหม่วันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 ครับ
       
       ศาสตราจารย์ ดร. นันทวัฒน์ บรมานันท์


 
 
     

www.public-law.net ยินดีรับพิจารณาบทความด้านกฎหมายมหาชน โดยผู้สนใจสามารถส่งบทความผ่านทาง wmpublaw@public-law.net
ในรูปแบบของเอกสาร microsoft word (*.doc) เอกสาร text ข้อความล้วน (*.txt)ลิขสิทธิ์และความรับผิดตามกฎหมายของบทความที่ได้รับการเผยแพร่ผ่านทาง www.public-law.net นั้นเป็นของผู้เขียน ขอสงวนสิทธิ์ในการนำบทความที่ได้รับการเผยแพร่ไปจัดพิมพ์รวมเล่มเพื่อแจกจ่ายให้กับผู้สนใจต่อไป ข้อมูลทั้งหมดที่ปรากฏใน website นี้ยังมิใช่ข้อมูลที่เป็นทางการ หากต้องการอ้างอิง โปรดตรวจสอบรายละเอียดจากแหล่งที่มาของข้อมูลนั้น

จำนวนผู้เข้าชมเวบ นับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2544