|
|
ครั้งที่ 100 24 มกราคม 2548 07:17 น.
|
"แผนพัฒนาการท่าเรือของสเปน"
ผมเขียนบทบรรณาธิการนี้ที่ประเทศสเปนครับ โดยผมร่วมเดินทางมากับคณะกรรมาธิการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ วุฒิสภา ในระหว่างวันที่ 16-28 มกราคม เพื่อศึกษาดูงานด้านการพัฒนา การปฏิรูปและการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ใน 3 ประเทศคือ สเปน ฝรั่งเศส และอิตาลี บทบรรณาธิการครั้งนี้ผมคงขอถือโอกาสเล่าสิ่งที่ผมไปเห็นมาให้ฟังกันครับ
เมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา ผมได้ไปดูงานที่หน่วยงานชื่อ การท่องเที่ยวแห่งเมืองมาดริด (Patronato de Turismo de Madrid) หน่วยงานนี้เป็นหน่วยงานที่มีสถานะเทียบเคียงได้กับองค์การมหาชนในประเทศไทยที่ตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. 2542 ครับ หน่วยงานดังกล่าวมีสถานะเป็นนิติบุคคลในกฎหมายมหาชน มีงบประมาณเป็นของตนเองและมีอิสระในการบริหารจัดการ อำนาจหน้าที่ส่วนใหญ่ก็จะเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวครับ เช่น ประชาสัมพันธ์เมืองและจุดเด่นของเมืองต่อสาธารณชนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้คนเดินทางมาเที่ยวเมือง Madrid ให้มากขึ้น ประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น บริษัททัวร์หรือร้านอาหารต่างๆ รวมทั้งยังทำหน้าที่สำคัญในการพัฒนาปรับปรุงและเสริมสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆที่จะทำให้เป็นจุดขายแก่นักท่องเที่ยว เช่น การจัดให้มีบัตรโดยสารรถประจำทางราคาถูกสำหรับนักท่องเที่ยว จัดให้มีการแสดงละครหรือ Opera จัดทำสื่อต่างๆเพื่อเผยแพร่กิจกรรมของเมือง ให้บริการด้านข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวของเมือง ที่กล่าวมาทั้งหมดก็เป็นเฉพาะ หน้าที่ ขององค์การมหาชนแห่งนี้ ส่วน อำนาจนั้นไม่มีครับ ทำได้แค่เป็นคนกลางหรือผู้ประสานงานเท่านั้น เช่นหากจะจัดงานแล้วต้องปิดถนนก็จะเป็นผู้ขอให้ผู้มีอำนาจเป็นผู้ปิดถนน เป็นต้น ส่วน website ของหน่วยงานก็ถือว่าเป็น website ที่สมบูรณ์มาก คนสามารถเข้าไปหาข้อมูลต่างๆของเมือง สามารถจองโรงแรม ซื้อตั๋วดู Opera โดยผ่านทาง website ของเมืองได้ครับ งานหนักสำหรับองค์การมหาชนแห่งนี้ในปัจจุบันก็คือ การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคในปี ค.ศ. 2012 ครับ ดูๆแล้วก็น่าสนใจดีเหมือนกันนะครับที่เมือง แยก หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวมาเป็นอิสระและก็ให้มุ่งทำการประชาสัมพันธ์เมืองอย่างเดียวครับ เท่าที่ทราบการทำงานขององค์การมหาชนนี้เป็นที่ถูกใจของทั้งรัฐบาลและเมือง Madrid เพราะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีคนเข้ามาเที่ยวกรุง Madrid มากขึ้นเป็นหลายเท่าตัวครับ!
ส่วนในวันที่ 18 มกราคม ผมออกเดินทางจากเมือง Madrid มาที่เมือง Barcelona ด้วยรถไฟด่วน ซึ่งจริงๆแล้วก็คงไม่ด่วนเท่าไหร่ เพราะรถไฟในฝรั่งเศสด่วนกว่ามากครับ เมือง Barcelona ต่างจากเมือง Madrid ค่อนข้างมาก และเนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากฝรั่งเศสเท่าไหร่นักก็เลยทำให้หลายๆอย่างในเมืองนี้เป็นฝรั่งเศสครับ! ที่เมืองนี้ ผมได้ไปดูงานด้านการท่าเรือของเมืองครับ เมือง Barcelona เป็นเมืองท่ามาหลายศตวรรษแล้ว คงจำได้ว่า Christopher Columbus ออกเดินทางจากเมืองนี้ไปค้นหาทวีปใหม่ และในที่สุดก็ค้นพบทวีปอเมริกา เมื่อ ค.ศ. 1492 ครับ การท่าเรือของเมืองนี้เป็นรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ที่มีอาณาเขตพื้นที่อยู่ในความรับผิดชอบพันกว่าไร่และอยู่ริมทะเลทั้งหมด ในช่วงเวลาสองร้อยปีที่ผ่านมา มีผู้พยายามที่จะจัดระบบท่าเรือของเมืองใหม่ บางยุคก็เป็นระบบปิดที่ทำให้บริเวณท่าเรือทั้งหมดเป็นเขตหวงห้ามของคนทั่วไป เฉพาะคนที่รับ-ส่งของหรือผู้โดยสารเท่านั้นที่จะเข้าไปในการท่าเรือได้ แต่ในที่สุด การท่าเรือแห่งเมือง Barcelona ก็เข้าสู่ระบบเปิด คือให้ประชาชนสามารถเข้าไปใช้บริการได้ ซึ่งการใช้บริการในที่นี้หมายความรวมไปถึงเข้าไปใช้พักผ่อนหย่อนใจ หรือเข้าไป ชื่นชม ความงดงามริมทะเลด้วยครับ !! โดยในปี ค.ศ. 1987 เป็นต้นมา มีการจัดระบบพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของการท่าเรือใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์ 2 ประการหลัก คือ ทำให้ท่าเรือใหม่เป็นของ ประชาชน อย่างแท้จริง และก็เพื่อหาเงินเข้าเมืองด้วยครับ ดังนั้นจึงมีการวางผังบริเวณพื้นที่ใหม่ แบ่งเป็นท่าเรือ 3 ท่า สำหรับเรือต่างขนาด จัดให้มีพื้นที่ให้เช่าสำหรับจอดเรือ และนอกจากนี้ก็ยังนำเอาพื้นที่บางส่วนรวมทั้งโกดังเก่าหลายๆแห่งที่อยู่ริมทะเลไปให้เอกชนเช่า ในวันนี้บริเวณท่าเรือของเมือง Barcelona จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมือง มีศูนย์การค้า โรงหนังที่อยู่ริมทะเล มีโซนร้านอาหารทะเล มีพื้นที่สีเขียวที่ให้ประชาชนเข้าไปใช้ประโยชน์และใช้พักผ่อนหย่อนใจ ว่ากันว่าท่าเรือแห่งเมือง Barcelona ได้ให้สัมปทานกับเอกชนไปกว่า 700 สัมปทานเพื่อเข้ามาบริหารจัดการพื้นที่ของการท่าเรือส่วนที่เป็น ของประชาชน ครับ ส่วนเงินรายได้จากสัมปทานนั้น คณะกรรมการบริหารของการท่าเรือก็นำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานท่าเรือในส่วนที่เป็นของการท่าเรือ รวมทั้งนำไปใช้ในการขยายงานต่างๆ เช่น ถมทะเลบางส่วนเพื่อทำท่าเรือ หรือทำที่จอดเรือเพิ่มเติมครับ สัมปทานที่ให้กับเอกชนนั้น มีระยะเวลาไม่เกิน 30 ปีเหมือนของเรา ส่วนสัมปทานที่ให้เอกชนไปนั้นก็มีตั้งแต่สัมปทานขนาดเล็ก เช่น ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ไปจนถึงสัมปทานขนาดใหญ่ เช่น ยกของลงจากเรือหรือจัดทำโกดังเก็บของครับ ผมดูแล้วมีความรู้สึกแปลกๆเมื่อนึกถึง ท่าเรือ ของเราแถวๆคลองเตยที่ กั้นรั้ว ตลอดแนวครับ ลองนึกดูบ้างดีไหมครับว่า ถ้ากันบริเวณดังกล่าวออกมาบางส่วนให้กับประชาชน เราก็คงจะมีบริเวณพักผ่อนหย่อนใจเพิ่มขึ้นมาอีกแห่งหนึ่งครับ ก็คงต้องขอจบรายงานสิ่งที่ผมได้พบเห็นมาในประเทศสเปนไว้แค่นี้ก่อนครับ
ในสัปดาห์นี้ เราได้รับเกียรติให้นำเสนอนโยบายของ พรรคทางเลือกที่สาม และ ข้อบังคับพรรคทางเลือกที่สาม ของท่านศาสตราจารย์ ดร.อมร จันทรสมบูรณ์ และบทความของ คุณ บุญเสริม นาคสาร แห่งสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เรื่อง ศาลรัฐธรรมนูญไทยต่างจากศาลอื่นและศาลรัฐธรรมนูญของต่างประเทศอย่างไร และในนานาสาระจากนักเรียนไทยในต่างแดน เรามีบทความของนักศึกษากฎหมายไทยในประเทศฝรั่งเศส คุณ ปาลีรัฐ ศรีวรรณพฤกษ์ เรื่อง การจำกัดเสรีภาพโดยรัฐในประเทศฝรั่งเศส ผมต้องขอขอบคุณทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ นอกจากนั้นยังมีการแนะนำหนังสือถึง 2 เล่ม คือ "คำอธิบายศัำพท์กฎหมายมหาชนฝรั่งเศส-ไทย" และ "ถาม-ตอบกับมีชัย ฤชุพันธุ์" อีกด้วยครับ
พบกันใหม่วันจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2548 ครับ
ศาสตราจารย์ ดร. นันทวัฒน์ บรมานันท์
|
|
|
พิมพ์จาก http://public-law.net/view.aspx?ID=726
เวลา 22 พฤศจิกายน 2567 18:55 น.
Pub Law Net (http://www.pub-law.net)
|