ทัศนะทางกฎหมายเรื่อง“ปัญหาการระดมทุนของรัฐเพื่อนำไปซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูลกับภารกิจของรัฐ”

9 มกราคม 2548 01:43 น.

                   
       ตามที่คณะรัฐมนตรีได้ประชุมหารือเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2547 และมีมติเห็นชอบใน หลักการให้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นผู้ประสานงานในการซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเพื่อนำมาพัฒนากีฬาของชาติ และเห็นชอบให้ระดมทุนเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวจากผู้สมัครใจหรือ ผู้ให้ความสนใจ หรือวิธีการออกสลากพิเศษเพื่อการกีฬา หรือโดยวิธีอื่นใดที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ และเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น กกท.จะจัดตั้งบริษัทเพื่อดำเนินการซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูลโดยการระดมทุนจากประชาชนโดยวิธีการออกสลากกีฬาพิเศษ ทั้งนี้ ผู้ที่ซื้อสลากสามารถแปลงสลากเป็นสิทธิซื้อหุ้นลิเวอร์พูลได้ ดังปรากฏรายละเอียดตามหน้าหนังสือพิมพ์โดยทั่วไปนั้น
                   
       คณาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดังมีรายนามข้างท้ายหนังสือฉบับนี้ เห็นว่า การดำเนินการดังกล่าวของ กกท. เป็นการดำเนินการที่ไม่สอดคล้องกับการดำเนินภารกิจของรัฐ อันเป็นการกระทำที่ขัดกับรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ดังเหตุผลต่อไปนี้
                   
       1. ปัญหาว่ารัฐจะมีอำนาจเพียงใดในการระดมทุนเพื่อซื้อหุ้นของสโมสรลิเวอร์พูลนั้นจะต้องพิจารณาจากกรอบของรัฐธรรมนูญตามมาตรา 212 และมาตรา 87 รัฐธรรมนูญฯ มาตรา 212 บัญญัติว่า “ในการบริหารราชการแผ่นดิน รัฐมนตรีต้องดำเนินการตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ กฎหมาย...” ดังนั้น รัฐมนตรีซึ่งย่อมหมายความรวมถึงนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีจักต้องดำเนินการภายในกรอบของรัฐธรรมนูญ บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่กำหนดแนวทางในเรื่องดังกล่าวนั้นบัญญัติไว้ในมาตรา 87 ว่า “รัฐต้องสนับสนุนระบบเศรษฐกิจแบบเสรีโดยอาศัยกลไกตลาด กำกับดูแลให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม คุ้มครองผู้บริโภค และป้องกันการผูกขาดตัดตอนทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมทั้งยกเลิกและละเว้นการตรากฎหมายและกฎเกณฑ์ที่ควบคุมธุรกิจที่ไม่สอดคล้องกับความจำเป็นทางเศรษฐกิจ และต้องไม่ประกอบกิจการแข่งขันกับเอกชน เว้นแต่มีความจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคงของรัฐ รักษาผลประโยชน์ส่วนรวม หรือการจัดให้มีการสาธารณูปโภค” จากหลักการตามมาตรา 87 นั้นเป็นการกำหนดแนวคิดในทางเศรษฐกิจว่ารัฐจักดำเนินการในทางเศรษฐกิจแบบเสรีโดยอาศัยกลไกตลาดเป็นพื้นฐานของระบบเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น การที่รัฐจะเข้าไปดำเนินการในทางเศรษฐกิจหรือดำเนินธุรกิจอย่างใดอย่างหนึ่งได้นั้นต้องเป็นไปตามข้อยกเว้นที่กำหนดไว้ในมาตรา 87 กล่าวคือ ต้องเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคงของรัฐ รักษาผลประโยชน์ส่วนรวม หรือการจัดให้มีการสาธารณูปโภค
                   
       การที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ความเห็นชอบในหลักการให้ กกท. เป็นเจ้าของเรื่องหรือเป็น เจ้าภาพในการระดมทุนเพื่อนำไปซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูลนั้นคงปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ใช่การกระทำของรัฐ เพราะมิเช่นนั้นคณะรัฐมนตรีคงไม่มีมติให้ กกท. ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐไปดำเนินการดังกล่าว เพียงแต่จะกระทำในรูปใดเท่านั้น นอกจากนี้ยังเห็นได้ชัดเจนว่าการออกสลากกีฬาพิเศษเป็นอำนาจซึ่งเฉพาะแต่รัฐเท่านั้นจะสามารถกระทำได้ เอกชนคนใดคนหนึ่งไม่อาจจะดำเนินการออกสลากใด ๆ ได้ ด้วยเหตุนี้การกระทำของรัฐในนามของ กกท. ดังกล่าวจึงเป็นการขัดกับมาตรา 87 ประกอบมาตรา 212 ของรัฐธรรมนูญ เพราะการซื้อหุ้นของสโมสรลิเวอร์พูลมีวัตถุประสงค์โดยตรงเพื่อมุ่งแสวงหากำไรอันเป็นวัตถุประสงค์หลักของการดำเนินธุรกิจในรูปของบริษัท กรณีย่อมไม่เข้าข้อยกเว้นตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 87 การดำเนินการของรัฐในนามของ กกท. ดังกล่าวจึงเป็นการขัดกับรัฐธรรมนูญ
                   
       2. การออกสลากกินแบ่งเพื่อระดมทุนในการซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูลเป็นกรณีที่รัฐไม่อาจกระทำได้ เนื่องจากการออกสลากกินแบ่งพิเศษในกรณีนี้เป็นการดำเนินการในทางธุรกิจเพื่อมุ่งแสวงหากำไร มิใช่การดำเนินการเพื่อนำรายได้ไปใช้สำหรับกิจการสาธารณกุศลหรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2543) หรือกฎกระทรวง ฉบับที่ 42 (พ.ศ. 2542) ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478
                   
       3. บริษัทที่ กกท. จะจัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวข้างต้น ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด มีวัตถุประสงค์หลักเพียงเพื่อการเข้าไปถือหุ้นในสโมสรลิเวอร์พูล (holding company) อันเป็นการยืนยันถึงการใช้อำนาจรัฐในการดำเนินการจัดตั้งบริษัทเพื่อประกอบธุรกิจแสวงหากำไรเยี่ยงภาคเอกชนโดยแท้ ดังนั้น กกท.จึงไม่อาจจัดตั้งบริษัทเพื่อดำเนินการในลักษณะเช่นนี้ได้ ส่วนกรณีที่ กกท. กล่าวอ้างว่าการจัดตั้งบริษัทดังกล่าวเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการกีฬานั้น ก็เป็นเพียงการกล่าวอ้างเพื่อสร้างความชอบธรรมในการดำเนินการซึ่งแท้ที่จริงแล้วเป็นการกระทำเพื่อบิดเบือนการใช้อำนาจของรัฐในการจัดตั้งบริษัทและการออกสลากเท่านั้น
                   
       คณาจารย์ผู้มีรายนามข้างท้ายเห็นด้วยกับรัฐบาลในการส่งเสริมสนับสนุนด้านการกีฬา หาก กกท. มีเจตนารมณ์ในการส่งเสริมการกีฬาอย่างแท้จริง กกท. ย่อมสามารถดำเนินการได้โดยตรงโดยไม่จำต้องจัดตั้งบริษัทเพื่อเข้าไปซื้อหุ้นในสโมสรลิเวอร์พูลแต่อย่างใด ดังนั้นหากรัฐบาลจะออกสลากกีฬาพิเศษเพื่อนำเงินมาสนับสนุนด้านการกีฬาโดยตรง เช่น นำไปสร้างสนามกีฬาหรือโรงเรียนกีฬาหรือนำไปใช้ในการบริหารจัดการหรือในการส่งเสริมสนับสนุนด้านการกีฬา กรณีย่อมเป็นการสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของ กกท. และจะเป็นการสนับสนุนการกีฬาโดยตรงอันเป็นการสอดคล้องกับการดำเนินภารกิจของรัฐ แต่หากจะออกสลากกีฬาพิเศษเพื่อนำเงินไปซื้อหุ้น การกระทำดังกล่าวย่อมเป็นการขัดกับรัฐธรรมนูญ รัฐบาลต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ทั้งในทางการเมืองและในทางกฎหมาย
                   
       ด้วยเหตุผลดังที่กล่าวแล้วข้างต้น คณาจารย์ผู้มีรายนามข้างท้ายนี้ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการดำเนินการใด ๆ ในนามของรัฐในการระดมทุนซื้อหุ้นของสโมสรลิเวอร์พูล หรือสโมสรใดก็ตาม แต่หาก พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร หรือรัฐมนตรีจะดำเนินการในนามส่วนตัวก็ย่อมกระทำได้ ถ้ารัฐบาลยังอาศัยชื่อของรัฐบาลไทยเพื่อดำเนินการในทางธุรกิจดังกล่าว กรณีย่อมเป็นการบิดเบือนการใช้อำนาจรัฐเพื่อแสวงหาประโยชน์ทางธุรกิจ อันมิใช่เรื่องภารกิจของรัฐที่รัฐพึงกระทำ และขอให้รัฐบาลตระหนักถึงภารกิจในการบริหารประเทศซึ่งมีความมุ่งหมายเพื่อประโยชน์สาธารณะเป็นหลัก มิใช่การดำเนินการเยี่ยงบริษัทเอกชนซึ่งมุ่งแสวงหากำไรเป็นสำคัญ
       
       
       
       
       ลงเผยแพร่ครั้งแรกใน Public Law Net วันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2547

       
       


พิมพ์จาก http://public-law.net/view.aspx?ID=708
เวลา 21 เมษายน 2568 14:28 น.
Pub Law Net (http://www.pub-law.net)