สิทธิของชนชาวไทย

12 กุมภาพันธ์ 2555 21:32 น.

       การปกครองในระบอบประชาธิปไตย สิทธิและเสรีภาพเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการพิจารณาในทางเนื้อหาว่ารัฐชาติใดนั้นเป็นประชาธิปไตยหรือไม่  มากน้อยเพียงใด โดยกฎหมายที่รับรองในเรื่องนี้คือกฎหมายรัฐธรรมนูญสำหรับประเทศที่มีรัฐธรรมนูญลายลักษณ์อักษร ซึ่งในทางการเมืองการปกครองการมีส่วนรวมทางการเมืองเป็นประเด็นที่สำคัญยิ่งต่อพัฒนาการทางการเมืองของแต่ละประเทศ ยิ่งประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองมากก็ยิ่งจะทำให้พัฒนาการทางการเมืองของประเทศนั้น ๆ สูงขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้การมีส่วนร่วมทางการเมืองก็มีระดับต่าง ๆ กันไป เช่น การติดตามข่าวสารทางการเมือง  การสนับสนุนพรรคการเมืองต่าง ๆ หรืออาจถึงขั้นเป็นสมาชิกพรรคการเมืองที่ตนนิยม เป็นต้น ทั้งหมดล้วนเป็นกิจกรรมในการมีส่วนร่วมทางการเมืองทั้งสิ้น
       ดังนั้นการส่งเสริมหรือสนับสนุนให้ชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าได้เข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองก็ถือเป็นสิทธิประการหนึ่งที่รัฐจะละเลยมิได้ หากแต่ในห้วงที่มีการนำเสนอร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ.... ฉบับ “เพื่อไทย” มาตรา ๒๙๑/๓  (๒)[๑] ที่กำหนดให้ ผู้ที่เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ นั้น ในทัศนะของข้าพเจ้าเห็นว่าขัดต่อความเสมอภาค จริงอยู่ที่บุคคลผู้เป็นข้าราชการอาจถูกจำกัดสิทธิได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย แต่ไม่ใช่กรณีนี้ อันเนื่องด้วยว่าการร่างรัฐธรรมนูญจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องให้มีผู้ส่วนได้เสียในสังคมไทยทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในเวทีแห่งการร่างรัฐธรรมนูญนี้ ส่วนผู้ใดจะได้ผ่านเข้าสู่สภาร่างฯ หรือไม่นั้น ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการเลือกตั้ง(ซึ่งควรปลอดจากการแทรกแซงจากผู้มีอิทธิพลทางการเมือง(ถ้าเป็นไปได้)) เมื่อพิจารณาแล้วจะเห็นว่ามีชนชาวไทยที่อยู่ในข่ายถูกตัดสิทธิการมีส่วนร่วมทางการเมืองอยู่อย่างน้อยที่สุดประมาณ ๑.๔๘[๒] ล้านคนเฉพาะฝ่ายพลเรือนและยังไม่รวมถึงข้าราชการส่วนท้องถิ่น ซึ่งผู้ที่มีความสนใจทางการเมืองกลุ่มนี้เป็นผู้ที่มีทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิไม่น้อยไปกว่ากลุ่มอื่น ๆ ในสังคมการเมืองไทย แต่กลับถูกปิดกั้นมิให้ใช้สิทธิทางการเมืองนี้
       สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องมีการทบทวนในประเด็นนี้ร่วมกัน รวมถึงร่างฯ ในมาตรา ๒๙๑/๓ (๑)[๓] ด้วย เพราะเวทีนี้เป็นเวทีที่จะสร้างความเห็นร่วมของชนชาวไทยทุกคนอย่างแท้จริง ในการกำหนดโครงสร้าง กฎเกณฑ์ และความสัมพันธ์ในทางการเมืองการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะมีการปิดกั้นใด ๆ นอกเหนือจากความเป็นพลเมืองไทยไม่ว่าจะเป็นเพศ การศึกษา อาชีพ สถานะทางสังคม สถานะทางเศรษฐกิจ ในอันที่จะสร้างคัมภีร์ในทางการเมืองการปกครองที่เป็น Thai Version อันเป็นที่ยอมรับและเทิดไว้ นำไปสู่ความสมานฉันท์อันพึงปรารถนาของชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า แต่เท่าที่ประมวลได้ชนชาวไทยเรามีวัฒนธรรมทางการเมืองที่น่าแปลกอยู่อย่างหนึ่งคือ เราส่วนใหญ่ไม่เคารพ(Respect)การตัดสินใจของตนเอง และในบางกรณีก็ใช้สิทธิเกินส่วนในการตัดสินใจของผู้อื่นซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่ด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรจะต้องแก้ไขไปพร้อมกันกับการแก้ไขลายลักษณ์อักษรที่เรายกให้เป็นอุดมคติในทางการเมืองการปกครองที่เรียกว่า “รัฐธรรมนูญ”  ก็จะเป็นการดีอย่างยิ่ง
       
       
       
       
       [๑]มติชนรายวัน, วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ,หน้า ๒
       
       
       [๒] www.ocsc.go.th/ocsccms/uploads/File/P01_P06(1).pdf  (ค้นเมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕)ใกล้เคียง
       
       
       [๓]  อ้างแล้ว ๑
       
       


พิมพ์จาก http://public-law.net/view.aspx?ID=1688
เวลา 22 พฤศจิกายน 2567 18:30 น.
Pub Law Net (http://www.pub-law.net)