| 
  
   | 
 
    | 
 
 
  รัฐธรรมนูญ อุดมคติหรือขยะทางความคิด ๔ 4 ธันวาคม 2554 18:35 น.
 
  | 
 
  
  
  
  
         รัฐธรรมนูญ อุดมคติหรือขยะทางความคิด ๔ 
       การบริหารราชการแผ่นดินเป็นอำนาจของฝ่ายบริหารโดยผ่านกลไกของรัฐทั้งราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาคและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งต่างก็เป็นองคาพยพของฝ่ายบริหาร ทั้งนี้การปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นการปกครองในแบบของการกระจายอำนาจในเชิงพื้นที่ ซึ่งข้าพเจ้าเห็นว่ามีประเด็นที่ต้องทบทวนในการที่จะพัฒนาการปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างน้อย ๒ ประเด็น ดังนี้ 
       ๑.     อำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 
       ในปัจจุบันอำนาจหน้าที่ในการจัดทำกิจการสาธารณะขององค์กรปกครองท้องถิ่นได้บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละประเภท และพระราชบัญญัติกำหนดแผน และขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.๒๕๔๒ ภารกิจที่กำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องทำและอาจทำมีเป็นจำนวนมากซึ่งน่าจะครอบคลุมต่อการให้บริการประชาชนในพื้นที่ที่รับผิดชอบ แต่ในทางกลับกันการให้บริการสาธารณะบางประการกับถูกตั้งคำถามว่า ใช่หรือเป็นอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือไม่ ทั้งที่การกระทำดังกล่าวเป็นการสนองตอบต่อปัญหาและความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้รับรองหลักความเป็นอิสระขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไว้ก็ตาม 
       ในประเทศอื่นการกำหนดให้องค์กรปกครองตนเองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจหน้าที่เป็นไปตามที่กำหนดในกฎหมายอาจจะเพียงพอในบริบทของสังคมที่รูปแบบและเนื้อหาของนิติรัฐได้ขยายไปสู่ระดับบุคคลอย่างเป็นรูปธรรม การขยายความและการนำกฎหมายรัฐธรรมนูญไปปฏิบัติย่อมไม่เกิดปัญหามากนัก 
       แต่ประเทศไทยการบัญญัติเช่นนั้นมีปัญหาในทางปฏิบัติเป็นอย่างมาก อาจเป็นด้วยความไม่เข้าใจหรือตั้งใจ การตรากฎหมายและออกกฎมาบังคับใช้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในบางกรณี ท้องถิ่นจะถูกกำหนดให้ดำเนินการต่างๆ ตาม การชี้แนะเชิงบริหาร ที่กฎหมายเขียนไว้อย่างกว้างขวาง ซึ่งในบางครั้งมีลักษณะเป็นการก้าวล่วงเข้าสู่ความเป็นอิสระของท้องถิ่น[๑] ดังนั้นข้าพเจ้าจึงเห็นว่าการกำหนดอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองตนเองส่วนท้องถิ่นควรเป็นไปตาม "หลักความสามารถทั่วไป" (general competence) หรือ "การบริหารปกครองโดยอิสระ" (free administration)[๒] ซึ่งเป็นกรอบแนวคิดทางกฎหมายที่ให้อำนาจกับท้องถิ่นในการกระทำการหรือจัดทำ/จัดหาบริการสาธารณะใดๆ ก็ได้เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของชุมชนท้องถิ่นของตนตราบเท่าที่ไม่ไปก้าวล่วงหรือกระทบต่ออำนาจหน้าที่ของหน่วยการปกครองอื่นๆ ซี่งจะส่งผลทำให้การปกครองตนเองส่วนท้องถิ่นมิใช่เป็นเพียงการจัดทำภารกิจที่มีอยู่เท่านั้น หากแต่หมายถึงการจัดทำบริการสาธารณะที่อาจจะมีขึ้นในอนาคตตามความจำเป็นของชุมชนท้องถิ่นด้วยน่าจะเหมาะสมกว่า 
       ๒.   การกำกับดูแลองค์กรปกครองตนเองส่วนท้องถิ่น 
       ในปัจจุบันวางน้ำหนักไว้ที่กระทรวงมหาดไทย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอเป็นหลักในการทำหน้าที่นี้ ส่วนนี้ข้าพเจ้าเห็นว่ายังเป็นประเด็นที่ต้องทบทวนในเรื่องการควบคุมเหนือการกระทำขององค์กรปกครองตนเองส่วนท้องถิ่น ซึ่งในปัจจุบันมีการควบคุมทั้งก่อนและหลังการกระทำ ในประเด็นนี้ก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการทำงานของของท้องถิ่นในแง่ของความเป็นอิสระและการสร้างนวัตกรรมในการปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ของท้องถิ่น โดยหลายท่านอาจจะเห็นว่ามีความจำเป็นด้วยเหตุผลความมีเอกภาพหรือความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของรัฐ แต่กับเป็นการสร้างกลไกให้อำนาจรัฐส่วนกลางและส่วนภูมิภาคสามารถเข้ามาแทรกแซงการทำงานตามอำนาจหน้าที่ของท้องถิ่น ประกอบกับในปัจจุบันไทยมีระบบศาลคู่และจัดตั้งศาลปกครองขึ้น การตรวจสอบหรือควบคุมความชอบด้วยกฎหมายควรอย่างยิ่งที่ต้องให้ศาลปกครองเป็นผู้วินิจฉัยเพื่อเป็นหลักประกันว่า ความเป็นอิสระขององค์กรปกครองตนเองส่วนท้องถิ่นตามอำนาจหน้าที่ในการกระทำการเพื่อประโยชน์ของชุมชนจะไม่ถูกบั่นทอนโดยอำนาจรัฐส่วนกลาง หรือส่วนภูมิภาค โดยผู้กำกับดูแลตรวจสอบเฉพาะหลังการกระทำขององค์กรปกครองตนเองส่วนท้องถิ่น และหากเห็นว่าการกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมายก็มีอำนาจในการส่งเรื่องฟ้องร้องให้ศาลปกครองพิจารณาวินิจฉัย ก็จะลดการแทรกแซงการทำงานที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของท้องถิ่นจากอำนาจรัฐส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคได้ 
       ๓.รูปแบบและชั้นการปกครองตนเองส่วนท้องถิ่น 
       ในปัจจุบันที่ว่าการปกครองตนเองส่วนท้องถิ่นของไทยแบ่งเป็นชั้นนั้น ไม่ได้เป็นไปตามความเข้าใจตามที่เข้าใจกันทั่วไปในนานาประเทศ หากแต่การปกครองตนเองส่วนท้องถิ่นของไทยแบ่งเป็นรูปแบบต่าง ๆ คือ รูปแบบพิเศษ(กทม.และเมืองพัทยา),องค์การบริหารส่วนจังหวัด,เทศบาล,องค์การบริหารส่วนตำบล 
       ในสี่รูปแบบมีเพียงรูปแบบพิเศษ(กทม.) ที่ไม่มีพื้นที่ทับซ้อนกับหน่วยการปกครองตนเองส่วนท้องถิ่นอื่นที่ว่าท้องถิ่นของไทยไม่ได้แบ่งเป็นชั้นนั้น เพราะเหตุที่ว่าในรูปแบบอื่นนอกจาก กทม. มีการทับซ้อนกันอยู่ทั้ง พื้นที่และอำนาจหน้าที่ โดยเฉพาะอำนาจหน้าที่ไม่มีการแบ่งแยกให้ชัดเจนเหมือนในต่างประเทศ ไม่แต่เฉพาะท้องถิ่นเท่านั้น แม้ในรัฐธรรมนูญก็มิได้กำหนดหน้าที่ของรัฐให้ชัดเจนลงไป ทำให้เกิดความสับสนปนเป ระหว่างอำนาจหน้าที่ต่าง ๆ ของหน่วยงานทางปกครองของรัฐทั้งราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองตนเองส่วนท้องถิ่น ส่งผลไปยังภาคประชาสังคมต่าง ๆ ในการทำความเข้าใจในเรื่องดังกล่าว ถ้าจะให้เห็นชัดเจนจะยกตัวอย่าง เช่น ในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๕ มีงบพัฒนาจังหวัด โดยอำเภอมีโครงการก่อสร้างระบบประปาหมู่บ้านในพื้นที่ท้องถิ่นซึ่งเป็นงานที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของท้องถิ่นตามกฎหมาย ในขณะเดียวกันองค์การบริหารส่วนจังหวัดก็มีโครงการเดียวกันนั้นในพื้นที่เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล และก็มีกระทรวงฯ ไปทำโครงการขุดลอกแหล่งน้ำในพื้นที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด 
       จากตัวอย่างจะเห็นความสับสนในภารกิจของรัฐจากการปฏิบัติของหน่วยงานทางปกครองต่าง ๆ ที่ไม่มีการแบ่งแยกอำนาจหน้าที่กันอย่างชัดเจนอย่างในหลายประเทศในที่นี้ขอยกตัวอย่าง ประเทศฝรั่งเศส 
       การจัดแบ่งภารกิจหน้าที่ระหว่างหน่วยการปกครองท้องถิ่นและรัฐ[๓] 
         
        
        
        
        
       เทศบาล 
        
        
       จังหวัด 
        
        
       ภาค 
        
        
       รัฐ 
        
        
        
        
       สวัสดิการสังคม 
        
        
        
        
       - จัดทำแฟ้มประวัติด้านสวัสดิการสังคมภายในชุมชนเพื่อเสนอต่อหน่วยงานของรัฐ 
       - ทำความตกลงกับหน่วยงานของรัฐเพื่อจัดทำภารกิจบางด้านแทน 
        
        
       - เป็นหน่วยงานหลักด้านการส่งเสริมสวัสดิการสังคม เช่น ให้ความช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาล, งานบริการสังคมแก่เยาวชน, ครอบครัว, คนพิการ และผู้สูงอายุ 
        
        
       (ไม่มีอำนาจหน้าที่โดยตรงในภารกิจด้านนี้) 
        
        
       - การประกันสังคม 
       - การคุ้มครองคนกลุ่มน้อย, ผู้สูงอายุ, สตรี, คนพิการ, ผู้อพยพ และเด็กกำพร้า 
        
        
        
        
       - การศึกษาระดับอนุบาลและประถมศึกษา (สถานที่, สนับสนุนการเงิน, ก่อสร้างอาคาร, อุปกรณ์การเรียน และการบำรุงรักษา) 
       - การปรับชั่วโมงเรียน และเพิ่มเติมกิจกรรมพิเศษนอกหลักสูตร 
       - จัดตั้งองค์กรเพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนด้านศิลปะ, การเต้นรำ, ดนตรี, การละคร 
        
        
       - การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 
       - เพิ่มเติมกิจกรรมพิเศษนอกหลักสูตร 
       - จัดตั้งองค์กรเพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนด้านศิลปะ, การเต้นรำ, ดนตรี, การละคร 
        
        
       - การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 
       - จัดตั้งองค์กรเพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนด้านศิลปะ, การเต้นรำ, ดนตรี, การละคร 
        
        
       - ภารกิจที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ได้แก่ การกำหนดหลักสูตร, การฝึกหัดผู้สอน, วางแผนระบบการศึกษา, รับผิดชอบค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการศึกษา 
       - การศึกษาชั้นสูง 
       - การวิจัยและพัฒนา 
        
        
        
        
       - ร่วมจัดทำ และพิจารณากฏบัตรขององค์กรความร่วมมือระหว่างเทศบาล 
       (intercommunual charters) 
        
        
       - ให้คำแนะนำแก่ภาคด้านการวางแผนระดับภาค 
       - ช่วยเหลือและสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่ชนบท 
        
        
       - มีส่วนร่วมในการกำหนดและนำเอานโยบายระดับชาติไปปฏิบัติ 
       - วางแผนในระดับภาค 
       - รับผิดชอบด้านการท่องเที่ยว 
        
        
       - วางแผนในระดับชาติ 
        
        
        
        
         
       จากประเด็นดังกล่าวข้างต้นในหมวดการปกครองตนเองส่วนท้องถิ่น ควรมีบทบัญญัติดังนี้ 
       มาตรา...อำนาจหน้าที่ที่มิได้ระบุไว้ว่าเป็นของรัฐให้เป็นขององค์กรปกครองตนเองส่วนท้องถิ่น การกำกับดูแลความชอบด้วยกฎหมายอยู่ภายใต้การวินิจฉัยของศาลปกครอง 
       มาตรา...ให้จัดตั้งคณะกรรมการการปกครองตนเองส่วนท้องถิ่นขึ้นเป็นหน่วยงานอิสระมีหน้าที่กำหนดนโยบายเพื่อสร้างเอกภาพในการพัฒนาการบริหารและการบริหารการพัฒนาขององค์กรปกครองตนเองส่วนท้องถิ่นเพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาของชาติในภาพรวม ตลอดจนส่งเสริม สนับสนุนและกำกับดูแลการปกครองตนเองส่วนท้องถิ่น ทั้งนี้ตามที่กฎหมายบัญญัติ 
       มาตร...การปกครองตนเองส่วนท้องถิ่นมี ๓ ชั้น คือ มณฑล จังหวัด และเทศบาล อำนาจหน้าที่ให้มีการแบ่งแยกอย่างชัดเจนไม่ซ้ำซ้อนกัน ตามที่กฎหมายบัญญัติ 
        
        
        
        
       [๑] รองศาสตราจารย์นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ และคณะ .รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ทิศทางการปกครองส่วนท้องถิ่นของไทยและต่างประเทศเปรียบเทียบ (เสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (กันยายน 2545) http://www.lawreform.go.th/lawreform/index.php?option=com_content&task=view&id=290&Itemid=11 (สืบค้นเมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๔) 
        
        
       [๒] เรื่องเดียวกัน 
        
        
       [๓] เรื่องเดียวกัน 
        
        
    
  | 
   
  
   
   | 
 
    | 
 
พิมพ์จาก http://public-law.net/view.aspx?ID=1664 
เวลา 4 พฤศจิกายน 2568 19:34 น. 
Pub Law Net  (http://www.pub-law.net)
 | 
 
  |