ครั้งที่ 96

15 ธันวาคม 2547 14:11 น.

       "พับนก"
       สองสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะไม่มีเรื่องอะไรน่าตื่นเต้นและไม่มีเรื่องที่เป็นประเด็นปัญหาทางกฎหมายมหาชนที่สำคัญพอที่ผมจะนำมาเขียนในบทบรรณาธิการนี้ได้ แต่ก็ยังมีข่าวน่าสนใจอยู่หลายข่าวที่เมื่อพิจารณารวมกันแล้วว่าจะเป็นเรื่องที่เรียกได้ว่าใกล้เคียงกันและเกี่ยวข้องกันครับ ลองมาดูกันสักหน่อยดีกว่าครับ คงต้องเริ่มจากการที่ “ท่านผู้นำ” ของเรา “ยอม” พบกับนักวิชาการก่อน คงจำกันได้ว่ามีนักวิชาการกลุ่มหนึ่งเข้าชื่อกันขอให้ “ท่านผู้นำ” ของเราแก้ปัญหาทางภาคใต้ด้วยสันติวิธี ก็เป็นเรื่องแปลกที่สุดอีกเรื่องหนึ่งที่ “ท่านผู้นำ” ของเรา “ยอม” คุยกับนักวิชาการแทนที่จะ “อัดกลับ” นักวิชาการเหมือนหลายสิบหลายร้อยครั้งที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งเป็น “ท่านผู้นำ” ครับ ก็นับเป็นนิมิตหมายอันดีที่ “ท่านผู้นำ” ยอมฟังนักวิชาการบ้าง (หวังว่าคงไม่ได้เป็นเพราะจวนถึง “ฤดู” เลือกตั้งนะครับ!!!) ผมได้ติดตามข่าวท่านผู้นำพบนักวิชาการด้วยความสนใจ แม้ข้อเสนอของฝ่ายนักวิชาการจะ “???” ในบางเรื่องแต่ก็คงต้องให้เครดิตกันนะครับที่อย่างน้อยนักวิชาการเหล่านั้นมีความวิตกเป็นทุกข์กับเหตุการณ์ไม่สงบที่เกิดขึ้นในภาคใต้ของเราครับ
       การพบกับนักวิชาการของ “ท่านผู้นำ” ดูจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ที่ไหนได้กลับกลายเป็นเรื่อง “ยุ่ง” เข้าไปอีก เมื่อมีนักวิชาการคนหนึ่งมอบนกกระดาษสีขาวตัวหนึ่งซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ “สันติภาพ" ให้กับ “ท่านผู้นำ” ของเรา โดยนกกระดาษนั้นทำมาจากการนำเอากระดาษมาพับเป็นนกครับ เจตนาของนักวิชาการก็คงเป็นแบบที่ผมเขียนไปข้างต้นก็คือ น่าจะเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพมากกว่า แต่คราวนี้ “ท่านผู้นำ” ของเรามองนกแล้ว เกิดความคิดเจิดจรัสไปไกลถึงขนาดว่านกกระดาษจะสามารถสร้างสันติสุขให้กับภาคใต้ได้ จึงได้เชิญชวนให้พี่น้องชาวไทยพับนกกระดาษจำนวน 62,000,000 ตัว (อ่านว่าหกสิบสองล้านตัว) เพื่อนำไปให้กับคนไทยในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้
       ไม่น่าเชื่อว่าแนวความคิดเรื่อง “เชื่อผู้นำ ชาติพ้นภัย” จะยัง “ศักดิ์สิทธิ์” อยู่ คนไทยจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ส่วนราชการ บริษัทห้างร้าน รวมทั้ง ครม. ของ “ท่านผู้นำ” ต่างก็กุลีกุจอพับนกกันใหญ่ครับ ผมไม่ค่อยแน่ว่าจะมีใครบ้างที่ไม่รู้เรื่องการพับนก!!! ดูโทรทัศน์ ฟังวิทยุ อ่านหนังสือพิมพ์ก็มีแต่พับนก พับนก แล้วก็พับนกครับ!!! ผมไม่ทราบว่าที่เราพากันพับนกนี้เป็นเพราะศรัทธาในตัว “ท่านผู้นำ” ที่พอบอกอะไรก็ทำทั้งนั้น หรือว่าเราเป็นห่วงและวิตกกังวลในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กันแน่ครับ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม “ท่านผู้นำ” ของเราก็ได้ทำสิ่งที่นับได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ที่สำคัญของประเทศนี้ อาจกล่าวได้ว่าไม่เคยมีผู้นำของไทยคนใดสามารถทำได้มาก่อน คือ การสร้าง “ความหวัง” ให้กับประชาชนร่วมกัน สร้างความหวังว่า การพับนกเพื่อสันติภาพจะทำให้เหตุการณ์ไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จบลง
       พูดถึงเรื่อง “นก” ในฐานะที่เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ เพื่อนคนหนึ่งเล่าให้ฟังถึง “นกพิราบ” ในหนังเรื่องหนึ่งซึ่งเป็นหนังที่ผมชอบ (เพราะเป็นหนังของผู้กำกับชื่อดัง Tim Burton) แต่ผมก็ลืมไปแล้ว พอเพื่อนเล่าให้ฟังก็เลยนึกขึ้นมาได้ครับ หนังเรื่องนั้นคือ Mars Attacks!!! เนื้อเรื่องก็คือ กองทัพมนุษย์ดาวอังคารบุกโลก สหรัฐอเมริกาต้องการเจรจาก็เลยจัดพิธีต้อนรับกลางทะเลทราย มีประชาชนร่วมต้อนรับด้วย หลังจากจานบินร่อนลงบนโลก มนุษย์ดาวอังคารหน้าตาประหลาดก็ลงมา ฝ่ายมนุษย์โลกกล่าวต้อนรับ พอมนุษย์ดาวอังคารพูดผ่านเครื่องแปลภาษาว่าเรามาอย่างสันติ ฮิปปี้นายหนึ่งที่มาร่วมต้อนรับก็ปล่อยนกพิราบสีขาวหนึ่งตัว นกพิราบสีขาวซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพบินขึ้นสู่ท้องฟ้า แต่กลับปรากฏว่ามนุษย์ดาวอังคารยิงนกพิราบสีขาวด้วยปืนเลเซอร์จนตัวไหม้เกรียมตกลงมาตาย เข้าใจว่านกพิราบน่าจะเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งไม่ดี (หรืออาจเป็นสัญลักษณ์แห่งสงคราม) ในดาวอังคารมากกว่าครับ เพราะหลังจากยิงนกพิราบตาย มนุษย์ดาวอังคารก็ระดมยิงใส่ผู้มาต้อนรับ ที่เล่าให้ฟังที่เป็นส่วนหนึ่งของหนังนะครับ พอดีเห็นเกี่ยวกับ “นก” ก็เลยนำมาเล่าครับ ไม่ได้มีเจตนาอื่นแอบแฝงใด ๆ ทั้งนั้น
       กลับมาสู่บ้านเรากันต่อ!! ผมคงไม่สามารถคาดเดาได้ว่า ภายหลังการ “โปรย” นกหกสิบสองล้านตัวในสามจังหวัดภาคใต้เสร็จสิ้นแล้ว เราจะได้สันติสุขกลับคืนมาหรือไม่ คงเป็นการยากที่จะตอบเพราะมุมมองของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหลายอาจไม่ตรงกัน (เหมือนมนุษย์ดาวอังคาร?!) คงต้องรอดูกันต่อไปว่า บรรดาผู้ก่อความไม่สงบจะ “ยอมรับ” นกเพื่อสันติภาพที่ประชาชนส่วนหนึ่งในประเทศไทยได้ช่วยกันพับหรือไม่ครับ แต่ประเด็นที่อาจคาดเดาได้คงเป็นประเด็นสำคัญสำหรับการเขียนบทบรรณาธิการครั้งนี้ครับ นั่นก็คือ ประเด็นที่เกี่ยวกับนกหกสิบสองล้านตัวที่ทำมาจากกระดาษ!!!
       อย่างแรกที่ต้องกลับมานึกภาพคือ นกกระดาษ 62 ล้านตัวจะมีจำนวนขนาดไหนครับ!!! คงไม่มีใครตอบได้ เมื่อ 2 วันก่อนผมไปพบท่านอาจารย์บวรศักดิ์ ฯ ที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีมา ก็ได้มีโอกาสเห็น “นก ครม.” ใส่ถุงพลาสติกสีขาวใบโต 1 ใบครับ แต่ลำพังนก ครม.ก็ 1 ถุงโตแล้วครับ แล้วเราจะทำอย่างไรกับนก 62 ล้านตัวครับ เป็นเรื่องที่น่าคิดพอสมควร แล้วนก 62 ล้านตัวนั้นจะ “แจกจ่าย” ลงไปยังพี่น้องประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อย่างไร อันนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าคิดอีกอย่างหนึ่งนะครับ เพราะหาก “โปรย” ลงมาทางอากาศก็จะเป็นไปได้สูงที่จะพลัดลงน้ำลงทะเล ติดบนหลังคา และกลายเป็น “ขยะ” ไปในที่สุด ส่วนที่ตกลงมาบนพื้นก็ต้องมีจำนวนมาก ถ้าคนเก็บเอาไปไว้ในบ้านครบถ้วนทั้งหมดก็คงดีนะครับ แต่ถ้าทิ้งไว้เกลื่อนกลาด หรือในบางพื้นที่ที่ไม่มีคนอยู่มากแต่มีนกตกลงไปมาก ก็จะกลายเป็น “ขยะ” ไปอีกเช่นกันครับ และอย่างสุดท้ายถ้าผมจำไม่ผิดเราเคยรณรงค์กันมาแล้วหลายรอบในเรื่อง “กระดาษ” เพราะว่าทำมาจาก “ไม้” ครับ นก 62 ล้านตัวจะมีที่มาจากกระดาษกี่แผ่นครับ แล้วก็มาจากต้นไม้กี่ต้น ก็คงต้องฝากเอาไปคิดกันด้วยครับ!!!
       ที่เขียนมาข้างต้นมิได้จะมีแนวความคิดที่ “ขวาง” ท่านผู้นำนะครับ เป้าหมายเราตรงกันก็คือ ทำอย่างไรที่จะให้เกิดความสงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ครับ เพียงแต่ผมไม่คิดว่าการพับนกกระดาษจะทำให้เหตุการณ์ไม่สงบนั้นสงบลงได้ เว้นแต่ผู้ก่อความไม่สงบจะวางอาวุธลงและหันมา “พับนก” เช่นเดียวกับคนไทยทั่ว ๆ ไปครับ!!! และนอกจากนี้ การพับนกก็มิใช่วิธีการที่จะแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ รัฐบาลจะต้องมีวิธีการอื่นอีกที่จะแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการดังกล่าวครับ แต่อย่างไรก็ดี ต้องขอปรบมือชมเชย “ท่านผู้นำ” ที่ได้สร้าง “กระแส” ขึ้นมาเพื่อเรียกร้องให้เกิดสันติภาพใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ครับ ผมเข้าใจว่านี้เป็นอีกวิธีหนึ่งที่เป็น “สันติวิธี” ที่ “ท่านผู้นำ” พยายามนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ครับ ก็ขอเอาใจช่วยต่อไปครับ!!!
       ในสัปดาห์นี้ เรามีการแนะนำหนังสือใหม่จำนวนหนึ่งใน “หนังสือตำรา” ครับ ส่วนบทความทางวิชาการก็คงเป็นงานวิจัยของผมเรื่อง “การให้สิทธิประชาชนฟ้องศาลรัฐธรรมนูญ กรณีละเมิดสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ” ที่ลงเผยแพร่เป็นตอนที่ 5 แล้วนะครับ ส่วนบทความจากนักศึกษาไทยในต่างประเทศนั้น ในคราวนี้ “ขาประจำ” คือ นางสาวปาลีรัฐ ศรีวรรณพฤกษ์ แห่งมหาวิทยาลัย Auvergne ประเทศฝรั่งเศส ก็ได้ส่งบทความเรื่อง “สหภาพยุโรป : กำเนิด พัฒนาการ และการเข้าร่วมของประเทศตุรกี” มาร่วมกับเรา อ่านดูได้ใน “นานาสาระนักเรียนไทยในต่างแดน” ขอบคุณนะครับที่มีส่วนร่วมเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการร่วมกับผมอย่างสม่ำเสมอ
       จำนวนผู้ใช้บริการของเราจะครบสามแสนคนอยู่แล้วในอีกไม่กี่วันนี้นะครับ เป็นความภูมิใจอีกอย่างหนึ่งของผมและทีมงานที่ตั้งใจทำ website แห่งนี้เพื่อประโยชน์ของสังคมครับ
       
       พบกันใหม่วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคมครับ
       ศาสตราจารย์ ดร.นันทวัฒน์ บรมานันท์


พิมพ์จาก http://public-law.net/view.aspx?ID=115
เวลา 22 พฤศจิกายน 2567 19:32 น.
Pub Law Net (http://www.pub-law.net)