|
|
ครั้งที่ 84 15 ธันวาคม 2547 13:54 น.
|
"ตู้รับเรื่องราวร้องทุกข์"
สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นช่วงเปิดเทอมใหม่ของมหาวิทยาลัย ชีวิตก็กลับเข้าสู่ระบบปกติอีกครั้งหนึ่งคือ สอน สอน และสอนครับ
ข่าวการซื้อทีมฟุตบอลเริ่มแผ่วลงไปแล้วพร้อม ๆ กับการจบการอภิปรายไม่ไว้วางใจ!!! ไม่รู้ว่าจะมีอะไร เกี่ยวพัน กันบ้างหรือเปล่านะครับ แต่ที่แน่ ๆ ก็คือ ข่าวซื้อทีมฟุตบอลกลายเป็นหัวข้อสนทนาในทุกวงการและในทุกระดับ จนทำให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจดูจืดชืดไปเลยครับ จากการติดตามข่าวก็ทราบว่า ท่านผู้นำ ของเราเริ่มมองเห็น อนาคต ของ รัฐอบายมุข แล้วครับว่า การก่อตั้ง รัฐอบายมุข นั้นแม้จะง่ายและได้เงินอย่างรวดเร็ว แต่ก็คงต้องมีปัญหากับพลเมืองที่จะต้องตามแก้ไขไปอีกนาน คงพอเดาออกนะครับว่า พลเมือง ของ รัฐอบายมุข จะทำอะไรได้บ้าง!!! เงินทองส่วนใหญ่ที่หากันมาได้ก็คงกลายไปกองอยู่ร่วมกับเงินทุนในการซื้อทีมฟุตบอลหรือไปพนันฟุตบอลไม่ก็ไปซื้อหวยนานาชนิด อาจมีเด็กเป็นโรคขาดอาหารเพิ่มขึ้น อาจมีโจรผู้ร้ายมากขึ้น เด็กนักเรียนก็จะหันมาสนใจการกีฬา (ในมุมของอบายมุข) มากขึ้น สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเป็น ผลลัพธ์ จากการ ปรับเปลี่ยน แนวทางของรัฐให้มุ่งเน้น อบายมุข มากเกินไปครับ ก็ยังดีนะครับที่ไหวตัวทันและกลับไปมองในมุมใหม่ที่พยายามหาทางปิดช่องว่างที่จะทำให้การกีฬาเป็นการพนัน แต่จริง ๆ แล้วผมก็ยังสงสัยอยู่ดีนะครับว่า แม้จะทำให้เงินที่จะซื้อทีมฟุตบอลไม่ได้มาจากการขายลอตเตอรี หรือทำให้การดูฟุตบอลเป็นการดูกีฬาที่ไม่ใช่การพนันแล้ว ทำไมเราถึงต้องไปซื้อทีมฟุตบอลมาครับ คิดยังไงก็คิดไม่ออกอยู่ดี ทำไมเราไม่ซื้ออย่างอื่นที่น่าจะเกิดประโยชน์กับประโยชน์ส่วนรวมทั้งประเทศครับ
เมื่อสมาสี่วันก่อน ผมเห็นรัฐบาลออกข่าวเกี่ยวกับการตั้ง ตู้ รับเรื่องราวร้องทุกข์ แล้วก็เห็น "ท่านผู้นำ ของเราไปเปิด ตู้ เอาคำร้องทุกข์ออกมาดู แล้วก็ได้ยินข่าวต่อไปอีกว่า มีการแก้ปัญหาที่มีคนนำมาร้องทุกข์โดยทีมงานของท่านผู้นำ ดูแล้วก็น่าชื่นชมนะครับที่ท่านผู้นำกระโจนลงมาเล่นปัญหาที่เกิดขึ้นกับประชาชนแต่ละคน นโยบายประชานิยมของท่านผู้นำคงจะแก้ปัญหาตั้งแต่ระดับชาติไล่ลงมาจนถึงระดับบุคคลได้เป็นอย่างดี แต่ผมก็มีข้อวิตกสองอย่างที่อยากจะกราบเรียนฝากท่านผู้นำไว้นะครับ ข้อวิตกประการแรกก็คือว่า ท่านผู้นำจะต้องทำงานหนักมากเพราะลงมาเล่นกับทุกเรื่องไม่มีละเว้นเลยครับ ปัญหาที่เกิดในสังคมของเรามีมากและสะสมกันมานาน ท่านผู้นำจะไหวหรือครับ!!! การแก้ไขทุกข์ให้ประชาชนเป็นสิ่งประเสริฐครับ แต่ผมก็อดห่วงท่านผู้นำไม่ได้ ข้อวิตกประการที่สองของผมนั้นก็คือ เสียดายเงินครับ เงินภาษีอากรจำนวนมากมายมหาศาลที่นำมาจ่ายเงินเดือนของผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาและเจ้าหน้าที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา เงินเดือนของตุลาการศาลปกครองและข้าราชการสำนักงานศาลปกครอง หน่วยงานทั้งสองมีคนอยู่เป็นพัน ๆ นะครับ เราจ่ายเงินเดือนกันไม่รู้กี่ร้อยล้านบาทต่อเดือน พอท่านผู้นำไปแย่งงานเขามาทำแล้ว เขาจะทำอะไรกันครับ!!!
ช่วงเวลาที่ผ่านมา ผมมีงานยุ่งมาก ๆ เลยครับ เลยทำให้ไม่มีเวลาตรวจดูข่าวคราวจากต่างประเทศว่ามีข่าวสารด้านกฎหมายมหาชนอะไรที่น่าสนใจบ้างไหม พ้นเดือนนี้ไปแล้วคงมีเวลามากขึ้นครับ หากมีอะไรน่าสนใจก็จะนำมาเล่าให้ฟังต่อไปครับ
การแจกหนังสือของเราได้รับความสนใจอย่างมาก ผมได้หนังสือจากสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญมาประมาณ 400 เล่ม ให้เจ้าของบทความที่ปรากฏในหนังสือไปร่วม 50 เล่ม ก็คงแจกจนหมดนะครับ ผมขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า ผมไม่แจกที่คณะเป็นการส่วนตัวนะครับ เพราะปัจจุบันคณะนิติศาสตร์ย้ายมาอยู่ตึกใหม่ 12 ชั้นที่มีระบบรักษาความปลอดภัยและภายในอาคารส่วนใหญ่จะเป็นห้องทำงาน ห้องพักอาจารย์ และสำนักงานของหลักสูตรต่าง ๆ การเข้ามารับหนังสือด้วยตัวเองอาจสร้างความพลุกพล่านและไปรบกวนการทำงานของผู้อื่น ผมเลยขอให้แจกหนังสือผ่านทางไปรษณีย์แต่เพียงอย่างเดียวนะครับ ใครที่ส่งซองมาขอหนังสือแล้วยังไม่ได้รับหนังสือก็ลองโทรศัพท์มาสอบถามดูว่ามีเอกสารใดขาดบ้างได้ที่ ผู้ช่วยของผมที่คณะนิติศาสตร์ โทรศัพท์ 0-2218-2017 ต่อ 213 ในวันและเวลาราชการนะครับ
ในสัปดาห์นี้ ผมขอนำเสนอบทความของผมเรื่อง คณะตุลาการรัฐธรรมนูญของฝรั่งเศสอยู่ภายใต้การควบคุมของศาลปกครองหรือไม่ จริง ๆ แล้ว บทความนี้ผมเขียนไว้หลายเดือนแล้วแต่ก็ไม่เสร็จเสียที เพราะมัวแต่ปรับไปปรับมาอยู่หลายครั้งครับ เมื่อสองวันก่อน ผมมาอ่านทวนดูอีกทีรู้สึกว่าพอใช้ได้แล้ว ก็เลยถือโอกาสนำมาลงในคราวนี้ครับ นอกจากบทความแล้วเราก็ยังมีการแนะนำหนังสือกฎหมายมหาชนใหม่ ๆ อีกจำนวนหนึ่งด้วยครับ
พบกันใหม่วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน 2547 ครับ
รองศาสตราจารย์ ดร.นันทวัฒน์ บรมานันท์
|
|
|
พิมพ์จาก http://public-law.net/view.aspx?ID=101
เวลา 22 พฤศจิกายน 2567 19:46 น.
Pub Law Net (http://www.pub-law.net)
|